ขนาดหน้าจอ
เรื่องของหน้าจอ แน่นอนว่า iPhone 4S ยังสู้กับ Galaxy S3 ไม่ได้แน่นอน เพราะขนาดของ iPhone 4S ยังใช้ขนาดและความละเอียดเดิมที่ใช้มานานแล้วตั้งแต่รุ่นเก่าๆ อยู่ คือ 3.5 นิ้ว และถึงแม้จะใช้จอ Ratina Display ที่มีความละเอียดค่อนข้างสูง แต่ก็ยังสู้จอที่มีขนาดใหญ่ของ Galaxy S3 ที่ใหญ่กว่า มีขนาดถึง 4.8 นิ้ว ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านตัวหนังสือบนจอได้ง่ายกว่าแน่นอน
เรื่องของหน้าจอ แน่นอนว่า iPhone 4S ยังสู้กับ Galaxy S3 ไม่ได้แน่นอน เพราะขนาดของ iPhone 4S ยังใช้ขนาดและความละเอียดเดิมที่ใช้มานานแล้วตั้งแต่รุ่นเก่าๆ อยู่ คือ 3.5 นิ้ว และถึงแม้จะใช้จอ Ratina Display ที่มีความละเอียดค่อนข้างสูง แต่ก็ยังสู้จอที่มีขนาดใหญ่ของ Galaxy S3 ที่ใหญ่กว่า มีขนาดถึง 4.8 นิ้ว ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านตัวหนังสือบนจอได้ง่ายกว่าแน่นอน
น้ำหนัก
กล้อง
จำนวนตัวเลขความละเอียดของกล้อง Galaxy S3 ไม่ได้ต่างจาก iPhone 4S เลย ก็ 8 MPixel เท่ากันนั่นแหละ แต่ด้วยความสามารถใหม่ของตัวกล้องใน Touchwiz UI ตัวใหม่จาก Samsung การใช้งานของกล้องใน Smartphone ตัวใหม่จาก Samsung ตัวนี้จึงดูมีทางเลือกขึ้นมาก ทั้ง Burst Shot ที่ทำให้เราสามารถถ่ายรูปได้ด้วยความเร็ว 3.3 รูปต่อวินาที และสามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดออกมาได้ มีระบบ Zero Shutter ที่ทำให้เราสามารถกดปุ่มชัตเตอร์แล้วถ่ายภาพได้ทันทีไม่มีดีเลย์ ดูแล้วนตอนนี้ Galaxy S3 น่าจะถ่ายรูปเร็วกว่า iPhone 4S แล้วด้วยซ้ำ แต่เรื่องคุณภาพของรูปต้องนำมาเทียบกันอีกที ซึ่งหากมีเว็บไหนเอารูปถ่ายจาก Smartphone ทั้ง 2 ตัวนี้เทียบกันให้ดูแล้ว ผมก็จะเอามาให้เพื่อนๆ ดูเช่นกันครับ และสุดท้ายระบบตรวจสอบรูปภาพว่าเป็นภาพของใคร จากรูปของเราที่เคย Tag ไว้ และสามารถสั่งแชร์ได้ทันที ส่วน iPhone 4S นั้นในตอนนี้มี HDR เป็นตัวชูโรงเหมือนเดิม แต่ความสามารถนี้ Smartphone รุ่นหลังๆ เค้าก็มีความสามารถนี้ด้วยแล้วเหมือนกัน และ iPhone 4S คงจะยังไม่มีการ Update ไปอีกซักพักแหละ น่าจะรอถึงวันที่เปิดตัว iPhone ตัวต่อไปด้วยซ้ำ
S-Voice นี่แหละคู่แข่งตัวจริงของ SIRI Samsung ทำระบบนี้ออกมาเหมือน Siri ของ Apple เป๊ะๆ ทีนี้ก็เหลือแค่ว่าระบบของใครจะตอบสนองได้ดีกว่ากัน ซักวันหนึ่งผมว่าต้องมีคนเอา Samsung Galaxy S3 มาเทียบชนกับ Siri แน่ๆ เมื่อนั้นแหละ เราค่อยมาดูกันว่าเครื่อง Smartphone รุ่นไหนจะตอบรับคำสั่งของเราได้ดีกว่า เชื่อผมเถอะต้องมีเครื่องใดเครื่องหนึ่งที่ตอบสนองพลาด เครื่องหนึ่งที่ตอบสนองถูกแน่ หรือบางทีก็อาจจะตอบสนองผิดทั้งคู่เลยก็มี มันอยู่ที่ความแตกต่างกันด้านแนวคิดการพัฒนาระบบของทั้งสองตัวนี้แหละครับ ใครออกแบบมาได้ดีกว่าก็เจ๋งกว่า
รายละเอียดอื่น ๆ
หากเป็น iPhone ลูกเล่นบนเครื่องแน่นอนว่าไม่ค่อยมีอะไรมากหรอกครับ นั่นเป็นสไตล์ของ Apple อยู่แล้ว ถ้ามีผมว่าแปลกเลยล่ะ แต่สำหรับ Samsung นั้น ใน Galaxy S3 เราจะได้เห็นลูกเล่นใหม่ๆ เยอะมากเลยทั้ง- Pop Up Play ระบบนี้ผมว่าค่อนข้างเจ๋งเลยครับ มันคือระบบที่ทำให้เราสามารถดูวีดีโอได้ในขณะที่กำลังเปิด Browser อยู่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราอาจจะต้องสลับหน้าจอไปมาทำให้วุ่นวายและไม่ต่อเนื่อง แต่ใน Galaxy S3 หน้าจอของวีดีโอสามารถย่อเป็นหน้าต่างเล็กๆ แสดงอยู่บน Browser ของเว็บ และสามารถย้ายตำแหน่งไปมาได้
- Burst Shot ความสามารถในการถ่ายรูปแบบรัว ซึ่งหากใครตามข่าวของ Android ใน HTC ตระกูล One ก็มีความสามารถนี้ด้วยเช่นกัน เพียงแต่ Galaxy S3 มีความสามารถที่เหนือกว่านั้นให้เราใช้ได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย ก็คือความสามารถในการวิเคราะห์ภาพที่ดีที่สุด และเลือกออกมาให้เรา แค่นี้ก็ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาเลือกภาพที่มีอยู่ให้เลือกมากมายแล้วล่ะ
- Zero Shutter Lag ความสามารถกดถ่ายปุ๊บได้รูปปั๊บตามแบบฉบับของ Android 4.0 ความสามารถนี้ใช้ได้กับทั้งกล้องด้านหน้าและกล้องด้านหลังเลย
- S-Beam ความสามารถในการแชร์ข้อมูลผ่านทาง NFC หรือ Wifi กับอุปกรณ์ที่รองรับ
- Glonass ระบบที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับ GPS หรือระบบค้นหาพิกัดตำแหน่งของเรา โดยใช้ดาวเทียมของรัสเซียช่วยในการบอกตำแหน่ง
-Eye Detection ระบบตรวจสอบเราว่ากำลังดูจออยู่หรือไม่ โดยการจับหาตำแหน่งตา หากไม่พบดวงตาของเรา มันก็จะทำการตั้งเวลาดับจอเองอัตโนมัติ ช่วยให้ประหยัดพลังงานให้อีกระดับหนึ่ง
- รองรับ Bluetooth 4.0 (LE)
- มี Barometer
เปรียบเทียบ Specs
ทางเว็บ Androidauthority ก็ได้มีการทำตารางเปรียบเทียบ Specs ของทั้ง Galaxy S3 และ iPhone 4S มาให้เราดูกันด้วย ลองมาดูกันดีกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น